วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คิดถึง พ่อขุนราม

จดหมายถึง...พ่อขุนราม





กราบเรียนพ่อขุนรามคำแหง  ที่เคารพ

วันเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินนะเจ้าคะ  นับตั้งแต่วันที่พ่อขุนเป็นพ่อเมืองสุโขทัย  สมัยนั้น  เรายังไม่มีตัวอักษรไทยใช้กันเลย  ต้องไปอาศัยใช้อักษรขอมบ้าง  มอญบ้าง  พ่อขุนสู้อุตส่าห์คิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นมา  เพื่อให้คนไทยได้มีภาษาไทยใช้เอง  จะได้เป็นเอกลักษณ์ของชาติ  แสดงว่าเราเป็นชาติเอกราช  ไม่ได้อยู่ใต้ปกครองของชาติอื่น และตัวอักษรที่พ่อขุนคิดประดิษฐ์ในครั้งนั้น  ก็สืบทอดเป็นมรดกของชาติไทยมานานนับพันปี

น่าเสียดายที่ทุกวันนี้  คนไทยไม่คิดเหมือนคนสมัยก่อน  เขามองไม่เห็นคุณค่าของภาษาไทยกันแล้ว  เด็กไทยไม่อยากเรียนภาษาไทยกันแล้วเจ้าค่ะ  เขาตื่นเต้นจะเรียนแต่สิ่งใหม่ ๆ สนใจภาษาต่างด้าว  ใช้สื่อเทคโนโลยีกันได้คล่องแคล่ว  สื่อสารด้วยภาษาที่เขาคิดเอาเองเฉพาะกลุ่ม  เขียนตัวอักษรให้ผิดเพี้ยนไปต่าง ๆ  ไม่ค่อยมีใครสนใจแล้วว่า  จะใช้ภาษาไทยอย่างไรให้ถูกต้อง



วันภาษาไทยผ่านไปไม่นานนี้  แต่ก็เงียบ ๆ เหงา ๆ  มีคนกลุ่มน้อยนิดเดียวที่ยังเห็นความสำคัญ  เพราะว่าคนส่วนใหญ่กำลังตื่นเต้นกับการก้าวสู่สากล  มีแต่คนอยากใช้ภาษาต่างด้าวให้เก่ง  จนน่ากลัวว่า  อีกไม่ช้า  ภาษาไทยอาจจะกลายเป็นภาษาของชนกลุ่มน้อย  หรือเป็นภาษาโบราณที่มีคนไม่กี่คนสนใจ

เห็นเด็กไทยทุกวันนี้  สื่อสารกันด้วยภาพ  เขียนหนังสือเหมือนสัญลักษณ์ที่รู้กันได้เฉพาะพวก  เฉพาะกลุ่ม  เหมือนพวกอินเดียนแดงที่สื่อสารกันด้วยควันไฟ  หรืออียิปต์โบราณที่ใช้อักษรภาพ  ส่วนที่เป็นตัวหนังสือ  เป็นเรื่องเป็นเล่ม  ยิ่งนับวันยิ่งไม่มีใครอ่าน  ยิ่งรู้สึกใจหาย  คิดถึงพ่อขุน  คิดถึงบรรพบุรุษที่สู้อุตส่าห์สร้างสรรค์  สืบทอดกันมา  หวังจะให้เป็นมรดกของชาติ  แต่คนรุ่นหลังกลับไม่เห็นค่า



ศิลาจารึกของพ่อขุน  เป็นโบราณวัตถุที่ทรงค่าเจ้าค่ะ  ทุกวันนี้คนก็ยังเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์  คงไม่แปลกอะไร  ที่วันหนึ่งในไม่ช้านี้  ภาษาไทยก็จะกลายเป็นภาษาโบราณ  ที่จะเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เหมือนกัน

เพราะที่ตรงนี้  อาจไม่ใช่ประเทศไทย  แต่กลายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของอาเซียน  ที่เอกลักษณ์ของชาติถูกกลืนหายกลายเป็นสากล  เหมือนเด็กไทยทุกวันนี้  ที่แยกแยะไม่ออกเลยว่าต่างจากจีน หรือเกาหลี ที่ตรงไหน


ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาโลก  ที่น่าใจหายก็คือ  มันไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ดีขึ้น  แต่กลับเสื่อมลงเรื่อย ๆ  เหมือนตะวันใกล้ตกดินแล้วนะเจ้าคะ

ก็ได้แต่หวังว่า  เมื่อวันใหม่มาถึง  จะยังคงหลงเหลือภาษาไทยอยู่ในดินแดนแห่งนี้

ด้วยความเคารพรัก และระลึกถึง









วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ถึง...เพื่อนครู

ถึง...เพื่อนครู



ถึง...เพื่อนครู ผู้ร่วมทาง  ร่วมสร้างฝัน
ข้างหน้านั้นทุกข์ยากมีขวากหนาม
เธอคงต้องฟันฝ่าพยายาม
เพื่อก้าวข้ามสู่จุดหมาย  ถึงปลายทาง

ถึง...เพื่อนครู ผู้สับสนจนเหนื่อยล้า
มิใช่ว่าเธอจะไร้ใครเคียงข้าง
ถึงหนทางยังเหมือนดูเลือนลาง
ขอเพียงเธอก้าวย่างอย่างมั่นใจ

เธอเป็นครู...เธอเป็นผู้มีความคิด
รู้ถูกผิดแจงแจกจำแนกได้
เธอเป็นผู้รู้จริงยิ่งกว่าใคร
แล้วเหตุใดเธอจึงขลาด...จึงหวาดกลัว

เพียงหนึ่งแรงแสงเทียนที่ริบหรี่
อาจไม่มีแสงสว่างกระจ่างทั่ว
กลางสังคมสับสนความหม่นมัว
หวังครูทั่วแผ่นดินทองส่องปัญญา

ถึง...เพื่อนครู ผู้ร่วมวันวิกฤติ
จงร่วมคิดร่วมสร้างวันข้างหน้า
ผสานใจ  ผสานแรง แห่งศรัทธา
ให้แกร่งกล้าสมเป็นครู...ผู้สร้างคน